[x] ปิดหน้าต่างนี้
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป   
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   
เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 294 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
หมวดหมู่ blog
ฝากข้อความ
ชื่อ :
ข้อความ (ตัวแสดงอารมณ์)
รวมลิงค์ที่น่าสนใจ
รวมเว็บที่น่าสนใจ

  

   เว็บบอร์ด >> สอบถาม พูดคุยเกี่ยวกับการเรียนการสอน >>
สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในปักกิ่ง Beijing จีน  VIEW : 2551    
โดย ปทุมรัตน์ สุจิตร์

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 2
ตอบแล้ว : 11
เพศ :
ระดับ : 2
Exp : 100%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 101.51.229.xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 16 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2563 เวลา 14:33:04   




เที่ยวกำแพงเมืองจีน (Great Wall Of China)

จะมีใครบ้างที่ไม่เคยได้ยินชื่อของกำแพงเมืองจีน กำแพงขนาดใหญ่ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศจีน มีความยาวกว่า 21,196.18 กิโลเมตร โดยมีอาณาเขตครอบคลุมทั้งหมดถึง 9 มณฑล ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และจัดเป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วยค่า

ผู้ก่อสร้างกำแพงเมืองจีนคนแรกก็คือ จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกของประวัติศาสตร์จีน สร้างขึ้นเพื่อเป็นแนวบอกชายแดนและป้องกันการบุกรุกของศัตรู โดยมีต้นแบบมาจากมังกรค่ะ ซึ่งในประเทศจีนมังกรเป็นสัตว์ที่แสดงถึงพลังการปกป้องคุ้มครอง ถ้ามองดูดีๆ จะเห็นว่ากำแพงเมืองจีนมีลักษณะรูปร่างคล้ายกับมังกรที่ขดตัวอยู่เหนือภูเขา เหมือนกับกำลังปกป้องอาณาเขตของตัวเองอยู่นั่นเอง

วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีความหลากหลายและแตกต่างกันไปตามภูมิประเทศที่กำแพงพาดผ่าน ซึ่งมีทั้งหิน ดิน ไม้ บางจุดก็ใช้หินอ่อน หินแกรนิต โคลน หรือดินเผา โดยใช้แรงงานนับล้านคน ส่วนใหญ่เป็นนักโทษสงครามและทาส มีแรงงานจำนวนไม่น้อยเลยค่ะที่เสียชีวิตลงระหว่างการก่อสร้าง และศพเหล่านั้นก็ถูกฝังทับถมอยู่ภายใต้กำแพง จนได้ชื่อว่าเป็นสุสานที่ยาวที่สุดในโลก เป็นที่กล่าวขานกันว่า ทุกๆ หนึ่งฟุตของกำแพงเมืองจีนคือหนึ่งชีวิตของผู้ก่อสร้างกำแพงค่ะ และนับจากสมัยจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ กำแพงเมืองจีนก็ถูกสร้างต่อกันมาอีกหลายยุคหลายสมัย รวมระยะเวลาทั้งสิ้นเกือบสองพันปีเลยทีเดียว

เที่ยวหอสักการะฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven)

หอสักการะฟ้าเทียนถาน ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของปักกิ่งค่ะ โดยคำว่าเทียน (Tian) หมายถึงฟ้า ส่วนคำว่าถาน (Tan) หมายถึงแท่นบูชา ใช้เป็นที่ประกอบพิธีเซ่นไหว้หรือบูชาฟ้าดินเพื่อขอให้ฝนตกตามฤดูกาลและให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี ถูกสร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง ซึ่งใช้เวลาสร้างนานกว่า 14 ปีเลยทีเดียว และได้ลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1998 อีกด้วยค่า

หอบูชาเทียนถานมีพื้นที่กว้างขวางมาก ประมาณ 1,700 ไร่ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่ผู้คนนิยมมาออกกำลังกายและทำกิจกรรมกลางแจ้งกัน ไม่ว่าจะเป็น รำมวยจีน เต้นรำ ตะกร้อ แบดมินตัน หรือนั่งจิบน้ำชา เล่นหมากรุกกันอย่างสบายอารมณ์ รอบๆ เต็มไปด้วยต้นสนกว่า 4,000 ต้น แต่ละต้นมีอายุมากกว่าร้อยปี บางต้นก็มีอายุถึง 500 ปีเลยทีเดียว สมัยก่อนถือเป็นไม้ต้องห้ามสำหรับชาวบ้านทั่วไป เพราะถือว่าเป็นไม้ชั้นสูง มีไว้ประดับบารมีเฉพาะระดับจักรพรรดิ์เท่านั้นค่ะ

เที่ยวพระราชวังฤดูร้อน (Summer Palace)

พระราชวังฤดูร้อน หรืออี้เหอหยวน ตั้งอยู่ในเขตเขตไห่เตี้ยน ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่งค่ะ ก่อสร้างขึ้นปีค.ศ. 1750 และเปิดให้สาธารณะเข้าชมได้ในปี ค.ศ. 1924 ต่อมาก็ถูกจัดให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี ค.ศ. 1998 อีกด้วยค่า

แต่เดิมเป็นพระราชวังของพระเจ้ากุบไลข่าน และมีการต่อเติมในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง แต่ก็ถูกทำลายหลายครั้งจากสงคราม ต่อมาพระนางซูสีไทเฮาได้บูรณะขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นที่พักของพระนางและสมเด็จพระจักรพรรดิกวางสูผู้ปกครองเมือง แต่อำนาจที่แท้จริงนั้นอยู่ที่พระนางซูสีไทเฮาค่ะ

สมเด็จพระจักรพรรดิกวางสูถูกกักอยู่ในตำหนักเล็กๆ แคบๆ ว่ากันว่าบ้านพักของลิเลียนยิง ขันทีมือขวาของพระนางซูสีไทเฮา ยังหรูหรากว่าซะอีกค่ะ มีแค่มเหสีสองคนเท่านั้นที่คอยดูแลสมเด็จพระจักรพรรดิกวางสูจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตเพราะยาพิษของพระนางซูสีไทเฮา

ที่นี่ถูกบำรุงรักษาไว้ได้อย่างดีงามสุดๆ มีพื้นที่ประมาณ 2.9 ตารางกิโลเมตร มีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ขุดขึ้นเอง และนำดินมาถมเป็นภูเขาสูง 60 เมตร ชื่อว่า ว่านโซวซ่าน หรือภูเขาหมื่นปี บนภูเขามีสิ่งก่อสร้างมากมาย เช่น เจดีย์สูงแปดเหลี่ยม, โรงงิ้ว, สวนดอกไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นอุทยานหลวงที่มีขนาดใหญ่และงดงามที่สุดของจีน และยังมีตำหนักน้อยใหญ่อีกเพียบ โดยตำหนักของพระนางซูสีไทเฮามีชื่อว่า Hall of Lotus Fragrance แปลว่าหงส์ที่อยู่เหนือมังกร ซึ่งหมายถึงอำนาจของพระนางที่อยู่เหนือสมเด็จพระจักรพรรดินั่นเองค่ะ

จุดที่ผู้คนมักจะมาถ่ายรูปกันก็คือบนยอดเขา ที่เมื่อมองลงมาจะเห็นทะเลสาบ เป็นภาพที่สวยงามมากกก สามารถเดินเล่นที่ระเบียงริมทะเลสาบได้ โดยมีความยาวเกือบ 800 เมตร จากหมู่พระตำหนักตะวันออกไปยังเรือหินอ่อนที่พระนางซูสีไทเฮาได้สร้างขึ้น โดยใช้เงินสำหรับการดูแลปรับปรุงกองทัพมาใช้เพื่อเป็นเพียงที่นั่งจิบน้ำชาชมทิวทัศน์ของพระนางเท่านั้น

เป็นอย่างไรบ้างคะ แค่เรื่องราวและประวัติของพระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้ก็ไม่ธรรมดาซะแล้ว นอกจากจะเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย ยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามอลังการอีกด้วย นับเป็นอีกสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยือนมากๆ เลยค่ะ

พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)

พระราชวังต้องห้ามหรือที่ชาวจีนเรียกกันว่าพระราชวังกู้กง ถือเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดในการมาเยือนประเทศจีนเลยล่ะค่ะ ซึ่งถ้าใครมาถึงปักกิ่งแล้วไม่ได้มาชมถือว่าพลาดมากกก เพราะนอกจากจะเป็นหนึ่งในพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก! ยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทรงคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์และวรรณคดี และยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วยค่า

ที่นี่ถูกสร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งอยู่ตรงตำแหน่งที่เรียกว่าหัวใจของปักกิ่ง (Heart of Beijing) เคยเป็นที่พำนักของฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หมิงถึง 14 พระองค์ และราชวงศ์ชิงอีก 14 พระองค์ ซึ่งคำว่าพระราชวังต้องห้ามมาจากที่ในอดีตเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้สามัญชนเข้ามาด้านใน แม้แต่ข้าราชการชั้นสูงยังต้องได้รับการอนุญาตจากฮ่องเต้เท่านั้น จึงจะสามารถผ่านเข้ามายังพระราชวังแห่งนี้ได้ค่ะ และคนในที่อยู่ เช่น สนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ทุกคนก็จะต้องอาศัยอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิต

พื้นที่ของพระราชวังต้องห้ามมีทั้งหมดประมาณ 720,000 ตารางเมตร มีกำแพงสูงและคูน้ำล้อมรอบ มีประตูทางเข้าทั้งสี่ทิศ อาคารมากกว่า 900 หลัง รวมกันทั้งหมดถึงหมื่นห้อง การก่อสร้างใช้ช่างฝีมือนับแสนคนและคนงานอีกกว่าล้านคนค่ะ วัสดุทุกอย่างก็คัดเอาเฉพาะของดีมาจากทั่วทุกสารทิศ ใช้เวลาการก่อสร้างทั้งหมด 14 ปี เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการสุดๆ ไปเลยค่า

โดยแบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอกและชั้นใน ซึ่งเขตชั้นในเป็นส่วนที่พำนักของฮ่องเต้ พระมเหสี พระสนม พระโอรสและพระธิดา มีสวนขนาดใหญ่ซึ่งรวมต้นไม้เก่าแก่ไว้หลายชนิด และมีอายุกว่า 300 ปีขึ้นไป รวมถึงใช้เป็นสถานที่ปรึกษาราชการสำคัญๆ และตรวจเอกสารอนุมัติราชการแผ่นดินในแต่ละวันด้วยค่ะ ส่วนพระราชฐานชั้นนอก ใช้เป็นที่ประกอบพิธี งานเลี้ยงต่างๆ และว่าราชการแผ่นดินกับขุนนางขุนศึก

ต้องขอบอกว่าพระราชวังแห่งนี้กว้างขวางใหญ่โตมากกก แนะนำว่าควรมีเวลาสักประมาณ 4 ชั่วโมงนะคะ เพื่อจะได้เดินชมทั่วครบทุกตำหนัก งานนี้ความรู้เพียบ แถมยังได้สัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ไปพร้อมกันด้วยค่า





โดย นางสาว ปิยธิดา บุญแก้ว
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 2
ตอบแล้ว : 19
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 101.51.229.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 16 ธ.ค. 2563 : 14:34

ต้องลองไปแล้วแหละ

      
โดย นางสาว ศศิกานต์ นพศรี
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 2
ตอบแล้ว : 19
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 101.51.229.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 16 ธ.ค. 2563 : 14:34

น่าไปมากเลย

      
โดย นางสาวกัลยารัตน์ นามอาษา
UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 2
ตอบแล้ว : 11
ระดับ : 1
Exp : 100%
IP : 101.51.229.xxx

 
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 16 ธ.ค. 2563 : 14:35

น่าไปค่ะ

      
1