1.การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เป็นสิ่งที่ได้ยินอยู่เสมอ ๆ เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพ เนื่องจากการทานอาหารให้ได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมนั้น ส่งผลดีต่อสุขภาพของคนเราอย่างมากเลยทีเดียว โดยคุณควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป รวมถึงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวสูงด้วย
2.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เผาผลาญไขมัน และเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจได้ โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ และเลือกประเภทของการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย สุขภาพ และความชอบของตนเอง เพื่อให้สามารถออกกำลังกายเป็นประจำได้โดยไม่เบื่อ สำหรับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกาย ควรค่อย ๆ เพิ่มความหนักและเวลาในการออกกำลังกายทีละน้อย ไม่ควรหักโหมจนเกินไป
3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
อีกหนึ่งวิธีการดูแลสุขภาพร่างกายที่สำคัญมาก แต่หลายคนมักละเลยเนื่องจากภาระการงาน และไลฟ์สไตล์ก็คือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลานั่นเอง เพราะการนอนหลับให้ครบ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน และไม่นอนดึกจนเกินไปจะช่วยให้ได้ซ่อมแซม ฟื้นฟูร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ด้วย
4.เรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดความเครียด
ส่งผลต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายได้อย่างมาก ดังนั้นหากต้องการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงรอบด้าน จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้ความเครียดสะสมจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ตามมา โดยอาจใช้วิธีพูดคุยกับเพื่อน หรือคนในครอบครัวเมื่อรู้สึกเครียด ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การเล่นโยคะ การทำสมาธิ คลายเครียดด้วยการฟังเพลง อ่านหนังสือ หรืองานอดิเรกอื่น ๆ ก็ได้
5.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด
นอกจากการดูแลสุขภาพเพื่อเสริมความแข็งแรงแล้ว การเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่บ่อนทำลายสุขภาพอย่างการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพสารเสพติด ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยอาจหากิจกรรมอื่นทำเพื่อทดแทนพฤติกรรมเสี่ยง หรือปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญหากต้องการเลิกพฤติกรรมเหล่านี้
6.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
ไม่ใช่เพียงอาหารเท่านั้นที่สำคัญ แต่การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอทุกวันก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยคุณควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และดื่มน้ำให้มากขึ้นเมื่อรู้สึกกระหาย หรือหลังออกกำลังกาย เพราะหากดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้อ่อนเพลีย รวมถึงทำให้ระบบบางอย่างในร่างกายทำงานผิดปกติได้ด้วย
7.สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น
การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดความเครียดในชีวิตของคุณ และยังทำให้คุณมีจิตใจแจ่มใสได้ด้วย เพราะเมื่อไม่มีความขัดแย้ง หรือความเกลียดชัง ก็จะไม่เกิดความเครียด และสามารถมีความสุขได้เสมอนั่นเอง
8.จัดสรรเวลาให้มีกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียด
การแบ่งเวลา หรือหาเวลาเพื่อหยุดงาน และพักผ่อนหย่อนใจบ้าง เช่น ในช่วงเย็น หรือวันหยุด จะช่วยลด และผ่อนคลายความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะคุณจะไม่ต้องจมอยู่กับความเครียดเป็นเวลานาน ๆ แถมยังช่วยให้คุณมีแรงกาย แรงใจ ในการทำงานวันต่อ ๆ ไปได้อีกด้วย
9.พบแพทย์เมื่อจำเป็น ไม่ละเลยอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ
หลาย ๆ คนมักคิดว่าเมื่อมีอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ อย่างไรก็ตาม หากอาการเหล่านั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็อาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรงกว่าได้ ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติทันที และไม่ควรละเลยอาการเจ็บป่วยใด ๆ ทั้งสิ้น
10.ตรวจสุขภาพเป็นประจำ
การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี หรือเมื่อพบเจอความผิดปกติด้านสุขภาพ เป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลสุขภาพ ที่จะช่วยให้คุณสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้าย หรือตรวจพบโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสรักษาหายได้มากขึ้น และช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดี แข็งแรง และยืนยาว
|