ราว พ.ศ. 2000 พระภิกษุชาวเชียงใหม่ได้แต่งชาดกในคัมภีร์พุทธศาสนาเรื่อง รถเสนชาดก ในปัญญาสชาดกเป็นภาษาบาลี[2]
วรรณคดีสมัยอยุธยาที่เอ่ยถึง นางสิบสอง เช่น โคลงนิราศหริภุญชัย กาพย์ห่อโคลงพระศรีมโหสถ นอกจากนี้หนังสือ จินดามณี ของพระโหราธิบดีซึ่งเชื่อว่าแต่งขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้นำเอาข้อความซึ่งน่าจะตัดมาจากเรื่อง นางสิบสอง สำนวนใดสำนวนหนึ่งมาแสดงตัวอย่างการประพันธ์ "สุรางคณาปทุมฉันท์"
นางสิบสอง เป็นเรื่องที่สังคมไทยโบราณรู้จักแพร่หลาย มีการนำมาแต่งเป็นคำประพันธ์กาพย์ขับไม้ คำฉันท์ กลอนสวด หรือกาพย์ และคำกลอน โดยเฉพาะคำฉันท์นั้น พบไม่น้อยกว่า 3 สำนวน คำกลอนพบไม่น้อยกว่า 10 สำนวน เรื่อง พระรถคำฉันท์ ที่พบต้นฉบับและกรมศิลปากรจัดพิมพ์เผยแพร่แล้วมี 3 สำนวน ได้แก่ พระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 1 บอกชื่อไว้ในเอกสารต้นฉบับว่า พระรถนิราศคำฉันท์ สันนิษฐานว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายหลังรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 2 เข้าใจว่าน่าจะปรับปรุงแก้ไขจากพระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 1 และ พระรถคำฉันท์ สำนวนที่ 3 บอกชื่อเรื่องไว้ในเอกสารสมุดไทยว่า พระรถคำหวน สำนวนนี้น่าจะแต่งขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ส่วน พระรถนิราศ ในลักษณะคำกลอน น่าจะเป็นผลงานของเจ้าพระยาพระคลัง (หน)[3]
ในภาคเหนือและภาคอีสานของไทยรวมถึงในลาวปรากฏชื่อว่า พุทธเสนกะ พุทธเสน พุทธเสนากะ และ นางสิบสอง เขตไทใหญ่ของรัฐฉานเรียก นางสิบสองเมืองนาย เขตไทลื้อและไทขึนเรียก จันทโสภานางสิบสอง[4]
พงศาวดารล้านช้างกล่าวถึงตำนานของชาวล้านช้างซึ่งเป็นชนเผ่าไทยกลุ่มหนึ่งว่าสืบเชื้อสายมาจากนางกังรีหรือนางเมรีในเรื่องพระรถเสน
ฉบับตีพิมพ์ หลวงศรีอมรญาณที่รวมรวมเรียบเรียงพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2476 ในชื่อ นิทานร้อยแก้วเรื่องพระรถเสน ฉบับ พระรถ สำนวนนายบุศย์ พิมพ์ที่โรงพิมพ์ราษฎร์เจริญในปี พ.ศ. 2492 ที่เป็นกลอนอ่านมี พระรถเมรีกลอนสุภาพ ของ ส.เลี้ยงถนอม พิมพ์ พ.ศ. 2512[5]
|